การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475

การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475

 ความพยายามเปลี่ยนแปลงฯ ในสมัยรัชกาลที่ 5
.. 2429 มีเจ้านายและขุนนางรวม 11 คน ซึ่งล้วนแต่เคยออกไปศึกษาหรือมีประสบการณ์ในประเทศแถบยุโรป ได้ร่วมกันยื่นบันทึกถวายความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีสาระสำคัญ คือ มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองให้ไทยเรามีระบอบรัฐธรรมนูญ และควรจะมีการปกครองโดยความรับผิดชอบรวมของคณะเสนาบดีคือ คาบิเนต ( Cabinet) ซึ่งมีเอกอัครมหาเสนาบดี ( Prime Minister) เป็นประธาน
รัชกาลที่ 5 ทรงตอบบันทึกนั้นว่า พระองค์ไม่เคยคิดที่จะหวงแหนอำนาจไว้เลย แต่ก็ติดขัดที่สถานการณ์ขณะนั้นยังไม่เหมาะสม เพราะขาดคนมีความรู้ความสามารถและความกล้าที่จะทำหน้าที่กลุ่มนิติบัญญัติเพื่อถ่วงอุงอำนาจกับอำนาจบริหารที่พระองค์ใช้อยู่
พระราชกรณียกิจของรัชกาบที่ 5 ที่ได้รับการวิเคราะห์ว่า ทรงสนับสนุนการปกครองระบอบอประชาธิปไตย ได้แก่ การเลิกทาส การปฏิรูปการบริหารราชการ และการสนับสนุนการศึกษา
รัชกาลที่ 6 กับประชาธิปไตย
รัชกาลที่ 6 ได้ทรงตั้งเมืองสมมุติดุสิตธานีขึ้น เพื่อจำลองรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยโปรดให้มีธรรมนูญการปกครอง, มีพรรคการเมือง 2 พรรค, มีการเลือกตั้งนัคราภิบาลหรือนายกเทศมนตรี (ตำแหน่งผู้ปกครอง), มีสภาการเมือง และมีการออกหนังสือพิมพ์วิพากษ์วิจารณ์และเสนอข่าว
กล่าวกันว่า ดุสิตธานีเป็นความพยายามปลูกฟังหรือฝึกหัดการปกครองระบบรัฐสภา แต่ก็มีผู้วิจารณ์ว่า เป็นเพียงการละเล่นของ ร. 6 ไม่ได้ตั้งใจก่อตั้งรูปการปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างจริงจัง
รัชกาลที่ 6 ได้ทรงเคยแสดงความคิดว่า พระองค์นิยมระบบรัฐธรรมนูญ แต่ยะงทรงไม่พระราชทานพระเสนาบดีที่ปรึกษาราชการทั้งชาวอังกฤษและอเมริกาทัดทานไว้ เนื่องจากเห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดการศึกษา ไม่สามารถจะใช้วิจารณญาณในการเลือกตั้งผู้แทนราชฎรที่ดีได้
การปฏิวัติ 24 มิถุนายน 2475
การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบกษัตริย์ภายใช้รัฐธรรมนูย เกิดขึ้นในปี พ.. 2475 เมื่อรัชกาลที่ 7 ทรงขึ้นครองราชย์ได้ 7 ปี ก็ไม่มีกลุ่มทหารและพลเรือนซึ่งเรียกว่าคณะราษฎรภายใต้การนำของ พ..พระยาพหพลพยุหเสนา และบุคคลสำคัญที่เป็นแกนนำ คือ พ..พระยาทรงสุรเดช, ..พระยาฤทธิ์อาคเนย์, ..หลวงพิบูลสงคราม (จอมพล ป. พิบูลสงคราม), ..พระประศาสน์พิทยายุทธ และหลวงประดิษฐ์มนูธรรม (ท่านปรีดี พนมยงค์) ได้ทำการยึดอำนาจการปกครอง โดยอัญเชิญ ร. 7 ขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ มีการประกาศใช้ พ...ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.. 2475 ต่อมาก็ได้สถาปนารัฐธรรมนูญฉบับแรกขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคม พ.. 2475
สาเหตุที่ทำให้การปฏิวัติครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้โดยง่าย มีดังนี้
1. สาเหตุทางเศรษฐกิจ โดยเกิดปัญหาข้าวยากหมากแพง ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อนเศรษฐกิจภายในประเทศทรุดหนัก และรัฐบาลของ ร. 7 ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดทั้งที่คนส่นใหญ่ไม่ได้มีส่วนร่วมหรือรู้เห็นให้การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ แต่ก็ยอมรับสภาพการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต่อต้าน ด้วยความหวังที่จะพบกับชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเก่า
2. สาเหตุทางการเมือง โดยสามัญชนที่รับราชการมีความรู้สึกว่า ร. 7 ส่งเสริมให้พวกราชวงศ์หรือพวกเจ้าที่รับราชการผูกขาดอำนาจทางการเมือง และทรงตั้งอภิรัฐสภาที่มีพระราชวงศ์เป็นสมาชิก โดยมีอำนาจอิทธิพลเหนือกว่าเสนาบดีสภา
3. สาเหตุทางสังคม โดยพวกเจ้ามีสิทธิต่าง ๆ หลายประเทศทำการปฏิบัติเปลี่ยนแปลงการปกครองสำเร็จ อันเป็นแรงกระตุ้นให้แกนนำกลุ่มผู้ก่อการมีกำลังใจที่จะดำเนินการให้สำเร็จ
ประกาศคณะราษฎร
หลักการสำคัญในประเทศคณะราษฎร มีดังนี้
1. จะต้องรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลายของประเทศไว้ให้มั่นคง
2. จะต้องรักษาความปลอดภัยในประเทศให้มาก
3. จะต้องบำรุงความสุขสมบูรณ์ของราษฎรในทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลใหม่จะหางานให้ราษฎรทุกคนทำ จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดยาก (เป็นข้อที่ได้รับการสนับสนุนและประชาชนพอใจมากที่สุด)
4. จะต้องให้ราษฎรได้มีสิทธิเสมอภาคกัน
5. จะต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพ มีความเป็นอิสระ
6. จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร
เค้าโครงเศรษฐกิจ
คณะราษฎรได้มอบหมายให้ท่านปรีดี พนมยงค์ จัดทำเค้าโครงเศรษฐกิจขึ้น โดยมีสาระสำคัญดังนี้
ให้สิทธิประชาชนมีโอกาสเป็นข้าราชการทุกคน
รัฐดำเนินการปฏิรูปที่ดินโดยบังคับซื้อที่ดินมาเป็นของรัฐหรือสหกรณ์ และดำเนินการเกษตรกรรมเอง ทำให้ผลผลิตเป็นของรัฐหรือสหกรณ์ (เป็นการสนับสนุนส่งเสริมระบบสหกรณ์ให้สามารถควบคุมราคาขายได้)
รัฐดำเนินการในเรื่องธนาคาร การคมนาคมขนส่ง รวมทั้งการอุตสาหกรรมเอง เพื่อตัดพ่อค้าคนกลางหรือนายทุนที่แสวงหากำไรออก
เค้าโครงเศรษฐกิจนี้เมื่อนำมาเสนอและเผยแพร่ ก็ได้ทำให้เกิดมีความคิดแตกแยกในหมู่ผู้นำคณะราษฎร โดยเฉพาะพระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรีได้คัดค้านเค้าโครงเศรษฐกิจนี้อย่างเต็มที่ โดยวิจารณ์ว่า เป็นแนวคิดแบบคอมมิวนิสต์ สามารถที่จะยอมรับให้นำมาใช้กับเมืองไทยได